แกร๊ก+
เท้าซีดขาวที่ผ่านเม็ดฝนเย็นเฉียบในชั่วโมงก่อนหน้ากำลังก้าวออกมาจากห้องน้ำ
พร้อมกับสองมือที่กำกระชับกับเสื้อคลุมอาบน้ำให้แน่นเข้าหากัน ดวงตาเรียวยาว
ที่ปราศจากขีดเขียนกำลังมองหาเจ้าของห้องนอนที่ตัวเองยืนอยู่ในตอนนี้
บนเตียงก็ไม่มี ริมหน้าต่างก็ไม่มี..หันซ้ายหันขวาก็ยังคงไม่พบร่างของคนที่บอกให้
ตัวเองเข้าไปอาบน้ำในครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า สายตายังคงกรอกไปมาอยู่กับบรรยากาศ
ภายในห้องนอนอันกว้างขวางที่ถูกตกแต่งเอาไว้ในสไตส์วินเทจวิคตอเรีย ในขณะที่
ฝ่ามือเรียวกำลังลูบไล้ไปที่ของแต่งห้องอย่างตะเกียงโบราณสีมันวาวแต่เสียงประตูห้อง
ที่ดังขึ้นก็ทำให้รีบชักมือกลับมาอย่างรวดเร็ว
แกร๊ก
แล้วร่างของคนที่มองในก็กำลังเดินตามสาวใช้คนนึงที่กำลังยกถาดเข้ามาวางไว้
ก่อนที่จะเดินออกไป สายตาของตัวเองวางไปยังของบนถาดแล้วก็หันกลับมา
มองคนที่กำลังใช้หลังดันประตูห้องให้ปิดลง
“เอ่อ….”
“กินยาดักไว้ก่อนสิ…”
“หื้อ”
“ก็ไปยืนตากฝนแบนั้น”
น้ำเสียงแข็งๆที่เอ่ยออกมากับท่าทางกอดอกของเธอทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
ฉันหมายถึงท่าทางภายนอกที่กำลังต่อต้านความรู้สึกภายในของเธอมากกว่า
…..ลึกๆแล้วเธอก็เป็นห่วงฉันอยู่เหมือนกันสินะ
เธอกำลังเดินออกมาจากหลังบานประตู สองขาของฉันจึงก้าวออกไปหาก่อนที่จะยื่นสองแขน
ของตัวเองดึงตัวของเธอให้เซเข้ามาอยู่อ้อมกอดของฉันเอาไว้ เสียงเตือนที่ห้ามการกระทำ
ของฉันยิ่งทำให้ฉันออกแรงกอดเธอเอาไว้ให้แน่นในขณะที่จมูกก็เริ่มได้กลิ่นหอมจางๆที่
ตัวเองคิดถึงมาตลอดสองสามวันแถมอีกคนยังผ่านการอาบน้ำมาก่อนหน้า แต่ยังไม่ทันที่
จะได้ทำบางอย่างตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ เธอกลับดิ้นขลุกขลักหนีออกไปจากอ้อมกอด
แล้วเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงนั่นเสียก่อน
“ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ”
“………..”
“แน่ใจนะว่าเล่าให้ฟังหมดแล้ว…บอกฉันทุกเรื่องแล้วใช่มั้ย”
ท่าทางบึ้งตึงของคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงทำให้ฉันต้องเริ่มเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ
สองแขนก็ยังสอดเข้าไปที่เอวบางๆของเธอพร้อมกับคางที่วางอยู่กับหัวไหล่ของเธอเอาไว้
“ไม่เชื่อใจกันเหรอคะ”
“ฉันชอบนะเวลาที่เธอทำดีกับฉัน”
“…………..”
“ทำดีกับฉันแค่คนเดียวน่ะ”
“…ต่อไปนี้ฉันจะทำดีกับพี่แค่คนเดียว”
“ไม่ได้อยากได้คำตอบที่ฟังแล้วรู้สึกดี”
“…………..”
“แต่ช่วยทำให้เห็นทีได้มั้ย”
.
.
“…เชื่อใจฉันนะ”
ฉันไม่ได้รอให้เธอได้พูดอะไรออกมก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่กำลังรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่แก้มข้างขวาเมื่อเธอกำลังยกมือขึ้นโอบเอาไว้
ยิ้มออกมอย่างสุขใจเพราะนี่มันคจะเป็นรอยยิ้มแรกในเวลาของสองสามวันที่ผ่านมา
แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความคิดถึงหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ฉันเริ่มจะกดจมูกลงที่แก้ม
ของเธอเบาๆและดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นเมื่อริมฝีปากแดงๆของเธอ
ส่งผลให้ฉันผละเธอออกจากอ้อมกอดแล้วค่อยๆยกมือขึ้นมาเชยคางของเธอ
ให้หันมาหา แล้วภาพบางอย่างที่ฉันเคยเข้าใจผิดในวันก่อนก็ฉายซ้ำอีกครั้ง
ความเจ็บปวดและอยากเอาชนะเพื่อลบล้างสัมผัสที่เกิดขึ้นโดยคนอื่นที่มอบให้กับเธอ
ส่งผลให้ฉันค่อยเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะแนบริมฝีปากเข้าหาอีกคน
จูบที่หนักหน่วงในคราวแรกทำให้เธอส่งเสียงประท้วงเบาๆในลำคอ ก่อนที่ฉัน
จะเปลี่ยนเป็นสัมผัสที่แผ่วเบาอย่างทะนุถนอมจนฉันเองก็เริ่มรู้สึกถึงการตอบรับ
จากอีกคนกลับมา ฉันพยายามจะลืมภาพในวันนั้นแต่มันก็กลับมาตีวนอีกครั้งจนได้
สัมผัสที่เคยอ่อนโยนเริ่มเปลี่ยนไปเป็นความหนักหน่วงอีกครั้ง เมื่อฉันเริ่มบดเบียด
ริมฝีปากอีกคนอย่างเอาแต่ใจแล้วก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งได้ใจเมื่ออีกคนก็ไม่ได้ท้วงติงอะไร
เหมือนในตอนแรกซักนิด
“อือ…จี”
เสียงเรียกร้องภายในส่งผลให้ฉันเริ่มเคลื่อนฝ่ามือทั้งสองจับไว้ที่เอวของเธอบีบเคล้น
ไปตามอารมณ์บางอย่างที่เริ่มปะทุขึ้นภายในใจลึกๆ ปลายนิ้วเคลื่อนขึ้นมากดอยู่กับขอบบรา
ที่แผ่นหลังของเธอไปมา แต่ก็ต้องยอมผละจูบออกมาเสียก่อนเมื่อรู้สึกได้ว่าเธอเองเริ่มที่จะ
ขาดอากาศหายใจ
“ต่อไปนี้…ฉันจะทำดีกับพี่แค่คนเดียวเท่านั้น”
“………….”
“แล้วพี่เองก็ต้องไม่ยอมให้คนอื่นมาจูบพี่แบบนั้นอีก”
ฉันเคลื่อนตัวลงไปหาก่อนจะกดริมฝีปากลงไปยังอกข้างซ้ายที่ยังคงมีก้อนเนื้อ
ที่เต้นกระตุกแทบจะหลุดออกมา ฝ่ามือยังคงทำหน้าที่ได้ดีเมื่อฉันค่อยๆโน้ม
ให้ตัวของเธอลงไปนอนบนเตียงนุ่มเบาๆในขณะที่ริมฝีปากก็ยังไม่ยอมผละออก
“ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากหรือว่าตรงนี้…”
“………….”
“มีฉันคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ”
กลิ่นหอมๆจากอีกคนทำให้ฉันเคลื่อนริมฝีปากมาหยุดอยู่ที่บราสีดำที่เสื้อบางๆ
สีขาวตัวนี้ซ่อนมันไว้ได้ไม่หมดก่อนที่จะขบไปยังเนินอกนั่นเบาๆ
“อ..อย่า”
“หือ?….”
“อย่า…อย่าทำแบบนี้กับใคร”
“………..”
“อย่า…ทำให้ฉันเสียใจอีก”
ฉันเคลื่อนตัวขึ้นไปข้างบน ก่อนจะจ้องมองเธอที่นอนหลับตาพริ้มตรงหน้า
ตัดสินใจพาริมฝีปากของตัวเองเข้าไปใกล้ใบหูอีกนิดแล้วก็กระซิบบางอย่างออกไป
“จะไม่มีวันนั้น”
เรือนผมที่มีกลิ่มหอมอ่อนๆที่เกิดจากแชมพูแบบเดียวกันที่ฉันเองเคยใช้
รวมถึงองค์ประกอบทุกอย่างที่หล่อหลอมให้เป็นคนตรงหน้า แล้วก็เป็น
คนเดียวที่มีฉันคนนี้เท่านั้นที่เป็นเจ้าของ สมองพร้อมทั้งหัวใจที่เต้นรัว
อยู่ในตอนนี้สั่งการให้ฉันซุกจมูกเข้าหาซอกคอขาวจัด ยิ่งได้สัมผัสในครั้งแรก
ก็ยากที่จะห้ามใจตัวเองให้หยุดอยู่แค่นั้น แล้วหัวใจก็เต้นถี่รัวมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ใครกันที่บอกว่าครั้งแรกมักจะตื่นเต้นมากที่สุด…โกหก..โกหกทั้งเพ
ครั้งที่สองต่างหากที่ฉันอยากจะทำให้ทุกอย่างมันดีกว่าครั้งแรก
“ม…มือเย็น”
ฉันสอดมือเข้าไปภายใต้เสื้อนอนของเธออุณหภูมิที่อีกคนบอกว่ามันเย็นเฉียบ
นั่นเริ่มเปลี่ยนไปในเวลาต่อมา มันอุ่น…มันอุ่นจนร้อนเมื่อมือของฉันสัมผัสอยู่
กับหน้าท้องของเธอไปมา แล้วปลายหัวนิ้วโป้งเริ่มสอดเข้าไปภายใต้บราสีดำของเธอ
นึกยิ้มอยู่ในใจเมื่อเธอกำลังเงยหน้าขึ้นเปลือกทั้งสองปิดพริ้มกับสัมผัสที่ฉันเป็น
คนมอบให้
แกล้งอีกคนอยู่ได้ไม่นานก่อนที่ฉันจะถอนฝ่ามือออกมาแล้วรีบจัดการกับกระดุมเสื้อ
ที่มันเป็นสิ่งแรกที่ฉันรู้สึกว่ามันน่ารำคาญมากที่สุด ยิ่งแกะออกหัวใจก็เริ่มเต้นรัว
มากยิ่งขึ้นเม็ดแล้วเม็ดเล่ามันก็ยิ่งเร่งเร้าให้ปฏิกิริยาบางอย่างที่ผสมปนเปกันออกมา
เป็นความคิดถึงที่เป็นตัวจุดฉนวนให้อารมณ์บางอย่างพุ่งสูงเกินครึ่ง
…ร่างกายของฉันต้องการร่างกายของเธอ
“อืม……ชักช้า”
เสียงครางที่ดังขึ้นเบาๆพร้อมกับความหมายของประโยคที่ว่านั่นทำให้ฉันยิ่งได้ใจ
แล้วก็อยากจะเปลี่ยนประโยคก่อนหน้านั้นเป็นชื่อของตัวเองตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
สายตายังจ้องมองเรือนร่างท่อนบนของอีกคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า
แล้วมันก็หยุดอยู่ทีริมฝีปากบนเล็กๆที่มันดูน่ารักและเชิญชวนให้ฉันไม่รอช้า
ที่จะเคลื่อนตัวเข้าหาแล้ว..จูบบดเบียดมันลงไปเบาๆในคราแรกเริ่มเปลี่ยนแปร
เป็นความหนักหน่วงตามความต้องการบางอย่างจากข้างใน รวมถึงฝ่ามือทั้งสอง
ข้างที่กำลังเค้นคลึงอยู่กับสะโพกด้านล่างอย่างเอาแต่ใจ
ลิ้นร้อนๆที่เริ่มสอดเข้าหาอีกคนทำหน้าที่นวดคลึงและสำรวจความหอมหวาน
จากเธออย่างไม่สนใจเสียงประท้วงแต่มันก็เงียบหาไปก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงการ
บดเค้นจากปลายลิ้นของอีกคน …..มันดี…มันดีมากจริงๆตื่นเต้นและเร้าใจมากกว่า
ในครั้งแรกเป็นไหนๆ
ฝ่ามือของเธอเริ่มขย้ำอยู่ที่หัวไหล่เมื่อฉันกดจมูกเข้าหาซอกคอที่หอมจางๆด้วยกลิ่นกาย
ที่เป็นบ่งบอกความเป็นตัวตนของเธอ ตัวตนของเธอที่เป็นของฉันรวมถึงจิตวิญญาณ
ของเราทั้งสองที่มันกำลังจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในอีกไม่ช้า
ฝ่ามือละออกมาจากสะโพกแล้วก็เคลื่อนขึ้นไปบราสีดำที่เป็นสิ่งขวางกั้นในลำดับต่อไป
ในขระที่ปลายลิ้มเริ่มอกมาลากไล้ไปสันกราม ฟันหน้ากดเบาๆเพื่อต้องการปลุกปั่น
อีกคน ปลายนิ้วสอดเข้าไปยังตะขอบราเพื่อหวังทำลายสิ่งขวางกั้นของร่างกายของเธอ
.
.
.
“ด….เดี๋ยวก่อน”
“………..”
“บอกว่าให้หยุดก่อน…”
“…………”
.
.
ฉันไม่ได้สนใจเสียงที่ดังขึ้นเลยแม้แต่น้อยในขณะที่ปลายลิ้นยังคงทำหน้าที่มันต่อไป
แล้วก็แอบยิ้มอยู่ในใจเมื่อตะขอบรานั้นหลุดออกจากกันในเวลาต่อมา
ผลั่ก
“ท…..ทำไม”
“ตอบคำถามข้อนี้มาก่อน”
“หือ?”
ฉันไม่เข้าใจแววตาที่ยังคงมีความสงสัยบางอย่างที่ฉายออกมาได้ชัด ในขณะที่
เธอพลิกตัวเองขึ้นมาอยู่ด้านบนตัวฉันเรียบร้อยแล้ว แต่หัวใจของฉันมันกำลัง
เร่งกระตุกแรงมากขึ้นเมื่อเนินอกของเธอมันกำลังบดเบียดส่วนเดียวกันกับของฉัน
“คืนนั้นอยู่กับคิวรีจนถึงเช้าเลยสินะ”
“ห๊ะ?”
“หูหนวกเหรอ”
“………….”
“ใช่มั้ย?”
“…เอ่อคือว่า”
“………….”
“ช….ใช่”
“แล้วนอนเตียงเดียวกันมั้ย”
“โถ่…..”
“ตอบคำถามเดี๋ยวนี้!”
“…ใช่….แต่มันไม่ได้มีอะไรซัก….”
“พี่จะไปไหน!”
แววตาที่ดูเคิบเคลิ้มในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นความดุดันและไม่พอใจจนเห็นได้ชัด
รวมถึงสีหน้าที่ดูงอง้ำแถมยังบึ้งตึงที่ฉายความรู้สึกภายในใจออกมาจนหมด
ฉันรู้ว่าเธอคงจะไม่พอใจแต่ในคืนนั้นมันก็ไม่ได้มีจริงๆ….แต่ว่าอันที่จริงมันก็อาจจะ
มีอะไรจริงก็ได้ เพราะฉันเองก็ฝันว่าได้จูบกับคนตรงหน้าทั้งๆที่คืนนั้นคนที่นอนอยู่
ด้วยข้างๆเป็นพี่คิวรี….ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เริ่มถึงพี่คิวรีจะจูบฉันจริงๆ ฉันก็ไม่ได้เริ่ม
ซักหน่อยแถมยังรู้สึกผิดมากด้วย แต่ไม่ใช่เวลานี้เรื่องนี้ไม่ควรจะให้คนตรงหน้านี้ได้
รับรู้เป็นแน่
“ปล่อย!”
“ไม่เอาสิ…อย่าเป็นแบบนี้”
.
.
ผลั่ก
.
.
ปึก……..
“โอ้ย!”
“สมน้ำหน้า”
เปลือกตาปิดลงอัตโนมัติตามด้วยการที่รู้สึกเจ็บที่สะโพกด้านซ้าย เมื่อร่างกายของฉัน
หล่นลงมากระแทกกับพื้นห้องแข็งๆแทนความนุ่มของเตียงนอนเพียงชั่ววินาที
ปึก
หมอนใบใหญ่ที่หนุนก่อนหน้าลอยเข้ามากระทบที่หัวจนฉันเซไปอีกข้างหลังจาก
ที่พยายามลุกขึ้นมานั่งด้วยอาการมึนงง
พรึ่บ
ทำไมถึงมืดไปหมด
มือขวากำลังดึงผ้าห่มผืนใหญ่ที่คลุมอยู่ที่หัวของตัวเองลงมา ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมอง
สถานการณ์รอบๆ ค่อยๆพาตัวเองลุกขึ้นมาพร้อมกับฝ่ามือที่จับอยู่กับสะโพก
“นี่มันอะไรกัน…”
“ปิดไฟได้แล้ว…..ง่วง!”
เธอกำลังเอียงตัวลงนอนที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มอีกผืนขึ้นมา
ห่มเอาไว้ เธอกำลังนอนหันหลังให้ฉันแล้วนั่นก็ทำให้ฉันค่อยๆนั่งลงบนเตียง
เอื้อมมือไปแตะที่ไหล่เบาๆ ถ้าทว่าไม่มีเสียงนั้นดังขึ้นมาเสียก่อน
“อย่าแตะตัวฉัน”
“แต่เมื่อกี้…ตะขอบราของพี่หลุดแล้วแท้ๆ”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้”
“…………”
“ทำไม…พี่ต้องทำแบบนี้”
“ลงไปนอนข้างล่าง”
“อะไรนะ!”
“เธอไปนอนกับคนอื่นมา”
“โธ่….ก็แค่นอนเฉยๆ”
“ฉันมีอะไรจะบอก”
“หือ?”
“ที่จริงคืนนั้นที่เธอออกไป…พี่อึนจองก็มานอนเป็นเพื่อนฉัน”
“ว่าไงนะ!”
“โธ่….ก็แค่นอนเฉยๆ”
“ที่นอนเสริมอยู่ในตู้ข้างใน…แล้วก็อย่าแอบขึ้นมาบนเตียงละ”
“เมื่อกี้ล้อเล่นใช่มั้ย”
“เห็นมั้ยละเธอยังโวยวายเลย”
“มันไม่เหมือนกัน”
“งดนอนเตียงเดียวกัน 1 อาทิตย์”
“ไม่มีทาง”
“ทีพี่ยังให้คนอื่นมานอนด้วยเลย”
“ฉันแค่ล้อเล่น”
“………..”
“หยุดนะ…..อย่าเข้ามา”
“…………”
“ถ้าพรุ่งนี้เกิดทำอะไรให้ไม่พอใจอีกละก็”
“…………”
“มันก็จะถูกเพิ่มไปเรื่อยๆ”
“แต่ 1 อาทิตย์มันไม่มากไปเหรอ”
“ลงไปได้แล้ว…นี่เตียงฉัน”
“…………”
“เพิ่มไปอีก 1 วัน”
“เข้าใจแล้วๆ”
.
.
.
แต่ความคิดทั้งหมดก็หยุดอยู่แค่นั้นเมื่อฉันเห็นท่าทางตื่นๆในนาทีก่อนหน้า
รวมถึงสายตาอ้อนๆของเธอที่พยายามอธิบายทุกอย่างให้ฉันฟัง มันทำให้ความ
ใจอ่อนที่มีมากอยู่แล้วกดทับความโกรธเอาไว้ทั้งหมด ฉันเคยคิดว่าตัวเองจะ
ใจอ่อนให้คนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับที่นอนของตัวเองมากไปหรือเปล่า
เปล่าเลย….ฉันก็แค่กลัว…..กลัวว่าจะเสียเธอคืนไปให้คนพวกนั้นมากกว่า
“เมื่อไหร่จะปิดไฟซักที!”
ท่าทางรีบจัดรวมถึงสีหน้าเงอะงะของเธอทำให้ฉันแอบอมยิ้มอยู่ซักพัก การกระทำ
ทุกอย่างยังคงอยู่ภายใต้สายตาของฉันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเสื้อผ้าของฉัน
จากตู้ด้านในมายืนรอคำอนุญาติจากฉันในนาทีก่อนหน้า หรือว่าที่คาดผมมินนี่
แสนน่ารักที่เธอยอมหยิบมันมาคาดเอาไว้บนหัวของตัวเอง ซึ่งนั่นมันก็เป็นไปตาม
คำสั่งจากปากของฉันโดยที่เธอไม่กล้าขัดใจเลยซักนิด จนสุดท้ายไฟในห้องก็ดับลง
แต่ภาพของเด็กผู้หญิงผิวขาวจัดที่อยู่ในเสื้อยืดรัดรูปที่มีไซร์เล็กกว่าขนาดตัวของเจ้าตัว
รวมถึงกางเกงนอนสีเทาขาสั้นกุดและไม้คาดผมมินนี่อันนั้นก็ยังคงฉายอยู่ในความรู้สึก
ของฉัน น่ารัก…..นั่นเป็นคำเดียวที่เกิดขึ้นในสมองตอนนี้
คิก…..
“พี่หัวเราะอะไร”
“เปล่า”
“แต่ว่าฉันได้ยิน…”
“อย่าถามมากได้มั้ยง่วงนอน”
“ขอโทษค่ะ…จะไม่ถามแล้ว”
“…………”
“ฝันดีนะคะ….แม้ว่าฉันอยากจะนอนกอดพี่มากแค่ไหนก็ตาม”
ฉันยังคงทำเสียงดุกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ ใครว่าไม่อยากกอด
มีใครบ้างที่ไม่อยากนอนซุกอ้อมกอดอุ่นๆของคนที่เราคิดถึงมาตลอด แถมยัง
มีเรื่องให้เข้าใจผิดกันตั้งหลายอย่าง คืนหลังจากการปรับความเข้าใจกันมันคง
จะดีกว่านี้ใช่มั้ย…..ใช่ถ้าไม่เป็นเพราะฉันกลัวว่าอีกคนจะได้ใจแล้วกลับไปทำ
ทำอะไรแบบนั้นอีก
…
…
เช้าวันต่อมา #คฤหานส์ตระกูลปาร์ค
“ดึงเสื้อเสื้อขึ้นสิ”
“…………”
“พัค จียอน”
“ฉันว่าฉันทาเองดีกว่า”
.
ฮัดชิ้ว+
.
“เมื่อคืนบอกให้กินยาก็ไม่กิน”
“ก็เมื่อคืออยากกินอย่างอื่นมากกว่า”
“นอนคว่ำ”
“ห๊ะ?….เปลี่ยใจแล้วเหรอ”
“จะทายาให้….คิดอะไรอยู่”
ฉันพลิกตัวมาอยู่ในท่านอนคว่ำ ก่อนที่จะชำเลืองมองอีกคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ
ตอนนี้เราอยู่บนเตียงนอน ซึ่งฉันก็นับว่าตัวเองยังคงโชคดีไม่น้อยที่เธอยอม
ให้ฉันขึ้นมาอยู่บนนี้ได้ ฉันยังคงยืนยัดว่าตัวเองสามารถจัดการกับหลอดยาที่
เธอเพิ่งดึงออกไปจากมือนี่ได้ แล้วก็กำลังไม่เข้าใจความต้องการของเธอเลยซักนิด
สมองยังคงมึนงงอยู่กับน้ำหนักเท้าจากอีกคนในคืนที่ผ่านมา พร้อมกับอาการ
ร้อนรนที่ในตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาเมื่อเธอเห็นว่าฉันกำลังมีอาการปวดที่สะโพก
“ตัวเล็กแค่นี้..แต่กลับมีแรงมากขนาดนั้นถีบฉันให้ตกลงมาจากเตียง”
“ก็เพราะว่าโกรธไงล่ะ”
“แสดงว่าตอนนี้หายโกรธแล้วใช่มั้ย”
“ถ้าวันนี้ไม่ทำอะไรให้ไม่พอใจเพิ่มอีกอะนะ”
“แน่นอน….คืนนี้ฉันก็ต้องได้เตียงเดียวกับพี่แน่”
“ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ซักนิด”
โอ้ย
“เจ็บเหรอ!”
“อือ…นิดหน่อย”
“ไหนลองหันหน้ามาซิ”
“ไม่”
“หน้าเธอแดงมากเลยนะ”
“…………..”
“เขินเหรอ”
“พี่เปิดสะโพกฉันอยู่นะ”
“ก็ถ้าไม่เปิดจะทายายังไง”
“หมายถึงมือที่นวดอยู่นั่นต่างหาก…ต้องการอะไรกันแน่”
“ก็เธอใช้สะโพกอ่อยฉันอยู่นิ”
“เปล่าซะหน่อย!”
บางอย่างกำลังปะทุน้อยๆอยู่ในใจ นิ้วมือเล็กๆที่กำลังกดวนอยู่กับสะโพกมันกำลัง
ปลุกปั้นความรู้สึกบางอย่างให้เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงสายตาที่จ้องมองอยู่
กับสะโพกของฉันที่ฉันเองหันไปมองเมื่อกี้
“ไม่เจ็บแล้วเหรอ….”
“ม….ไม่แล้วล่ะ”
“แปลกจริงๆ…ยานี่ดีมากเลย”
“แต่ว่ากำลังรู้สึกบางอย่าง”
“หือ”
“ทาเสร็จหรือยัง…อย่านานกว่านี้เลยนะ”
“แล้วจะรีบลุกขึ้นมาทำไม…นอนลงไป”
“…………”
“ก็มือพี่เย็นนิ”
“ยานี่เย็นกว่าตั้งเยอะ”
“………..”
“แล้วชั้นในสปอร์ตนี่…ใส่สบายมั้ย”
“ทำไมถึงถามอะไรแบบนี้!”
“กล้าพูดเสียงดังใส่เหรอ”
“…………”
“ก็มันเห็น…เลยถามดูเพราะรุ่นนี้ซื้อมายังไม่เคยใส่เลยซักครั้ง”
“ก…ก็ดี”
“อ่า….เสร็จแล้วๆ”
พู่วววว
ฉันรีบพลิกตัวเองกลับมาอยู่ในท่านั่งที่พิงอยู่กับหัวเตียงรวมถึงจัดการกับเสื้อผ้า
ของเธอที่ตัวเองใส่อยู่ให้เรียบร้อย เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำซักพักก่อนจะเดิน
กลับออกมา
“มานี่หน่อยสิ”
“………..”
“มานั่งลงนี้หน่อยนะ”
ฉันยิ้มออกมาเมื่อเธออยอมเดินเข้ามาหาใกล้แล้วสองแขนก็โอบเอวเธอเอาไว้
ก่อนจะดึงให้นั่งลงบนเตียง แม้ว่าเธอกำลังทำทีดิ้นขลุกขลักเขินๆอย่างวางท่า
แต่ฉันรู้ว่าเธอเองก็กำลังรู้สึกดีไม่น้อยเมื่อเวลาที่เธออยู่ในอ้อมกอดฉันอยู่แบบนี้
“อะไร”
“คิสสึ”
“ไม่ได้น่ารักหมือนลอเรนซ์ซักนิด”
“แล้วจะไม่คิสจริงๆเหรอ”
“……….”
“นะ…”
ฉันกำลังหลับตาลงเพื่อรอรับริมฝีปากเล็กๆของเธอ หัวใจเต้นตึกตัก
ในขณะที่รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดลงยังแก้มข้างซ้ายรวมถึงกลิ่นหอม
ประจำตัวเธอที่ฉันชอบมันมากที่สุด แผนการบางอย่างเมื่อเธอโน้มริมฝีปาก
เข้ามาใกล้อีกนิดกำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นไรไปก็เปลี่ยนจากแก้มข้างซ้ายเป็น
ริมฝีปากของฉัน
ตึก
ตึก
ตึก
ตึก
.
.
.
ครืด………
“ย๊า!+”
“รับโทรศัพท์ก่อนสิ”
ฉันรีบลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะรีบขวับไปหาโทรศัพท์ที่่สั่นเตือนอยู่ข้างๆ
รายชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอทำให้ฉันต้องรีบกดรับสายโดยไม่ต้องคิด
“ค่ะพ่อ”
“…………..”
“คะ!?”
“…………”
“ไม่เด็ดขาด…….พ่อก็หาคนอื่นมาแทนสิคะเรายังมีเวลาอีกตั้งเยอะ”
“…………..”
“ยังไงหนูก็ไม่ยอมไปเดินอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ”
“พ่อก็รู้หนูไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น”
“……………”
“อีกอย่างถ้าเดินคู่กับพี่สิก้า…”
“แล้วคอนเซ็ปมันก็เป็นเจ้าชายกับเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอคะ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC>> LOVE MINYEON
เจอกันอีกทีตอนงานเปิดตัวน้ำหอมค่ะ